
13 พ.ค. 2568
กฎหมายอาญาการจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย: ขั้นตอนและข้อควรรู้ทางกฎหมายสำหรับนักลงทุน
การเริ่มต้นธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะในรูปแบบบริษัทจำกัด (Limited Company) เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งบริษัทมีขั้นตอนและข้อกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
1. เลือกชื่อบริษัทและตรวจสอบความซ้ำซ้อน
ก่อนจดทะเบียน ต้องจองชื่อบริษัทผ่านระบบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
-
ห้ามใช้ชื่อซ้ำกับบริษัทอื่น
-
หลีกเลี่ยงคำต้องห้าม เช่น “แห่งชาติ” หรือ “มหาวิทยาลัย” โดยไม่มีสิทธิ์
ข้อแนะนำ: จองชื่อสำรองไว้ด้วย เผื่อชื่อแรกไม่ผ่าน
2. เตรียมเอกสารจดทะเบียนบริษัท
เอกสารหลักประกอบด้วย:
-
แบบคำขอจัดตั้งบริษัท (แบบ บอจ.1)
-
หนังสือบริคณห์สนธิ
-
ข้อบังคับบริษัท (ถ้ามี)
-
รายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5)
-
สำเนาบัตรประชาชน/หนังสือเดินทางของกรรมการและผู้ถือหุ้น
หากมีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้น ต้องพิจารณากฎหมายต่างด้าวด้วย (ไม่ควรให้ชาวต่างชาติถือหุ้นเกิน 49% หากไม่ขอใบอนุญาต)
3. เปิดบัญชีธนาคารและลงทะเบียนภาษี
หลังจากจดทะเบียนบริษัทเสร็จเรียบร้อย:
-
เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท
-
ขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (ภายใน 60 วัน)
-
หากมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียน VAT
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย: ลืมลงทะเบียนภาษีหรือยื่นล่าช้า ทำให้โดนปรับ
4. การแต่งตั้งกรรมการและกำหนดอำนาจ
ควรระบุอำนาจกรรมการให้ชัดเจน เช่น ใครสามารถลงนามผูกพันบริษัทได้ และต้องมีลายเซ็นร่วมกันหรือไม่
หากมีผู้ร่วมทุนหลายฝ่าย การออกแบบอำนาจกรรมการช่วยป้องกันการควบคุมบริษัทโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
5. ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการจัดตั้งบริษัท
-
ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนประมาณ 5,000 – 10,000 บาท (ขึ้นกับทุนจดทะเบียน)
-
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมผู้สอบบัญชี ค่าเช่าสำนักงาน ฯลฯ
-
แนะนำให้มีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 1 ล้านบาท หากมีชาวต่างชาติทำงานในบริษัท (เพื่อขอวีซ่า/ใบอนุญาตทำงาน)




